กปน. ร่วมมือ กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบคุณภาพน้ำ ภายในเรือนจำและทัณฑสถาน 11 แห่ง เพื่อสุขภาวะที่ดีในช่วงหน้าร้อน




นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า กปน. ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำภายในเรือนจำและทัณฑสถาน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บริการของ กปน. ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ภายใต้โครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ต้องขังให้มีน้ำอุปโภคบริโภคที่สะอาดปลอดภัย ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมตามสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน โดยทีมปฏิบัติการนักวิทย์ชุดขาว ฝ่ายคุณภาพน้ำ กปน. ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำตามจุดต่าง ๆ ได้แก่ น้ำประปาต่อตรงจากท่อจ่าย กปน. น้ำผ่านถังพักน้ำ และน้ำผ่านเครื่องกรอง/ตู้น้ำเย็น และนำมาตรวจวิเคราะห์ด้านเคมี กายภาพ และแบคทีเรีย 8 พารามิเตอร์ ได้แก่ คลอรีนอิสระคงเหลือ ความขุ่น สีปรากฏ ความเป็นกรด-ด่าง ความนำไฟฟ้า สารละลาย โคลิฟอร์มแบคทีเรีย และอี.โคไล หลังจากนั้น กปน. จะรายงานผลทดสอบคุณภาพน้ำส่งให้กับเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งหากผลการทดสอบคุณภาพน้ำไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดฯ กปน. จะแนะนำแนวทางการแก้ไข เช่น วิธีการล้างถังพักน้ำ และการดูแลเครื่องกรองน้ำ เป็นต้น พร้อมติดตามผลการแก้ไขปรับปรุง ในกรณีคุณภาพน้ำไม่ผ่านเกณฑ์ และลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำซ้ำ เมื่อทางเรือนจำและทัณฑสถานได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแล้ว โดยมีเรือนจำและทัณฑสถานที่เข้าร่วม 11 แห่ง ได้แก่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เรือนจำคลองเปรม เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำพิเศษมีนบุรี ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำกลางสมุทรปราการ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายน 2568
นางสาวสุวรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูร้อนมักจะมีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องร่วง อาหารเป็นพิษ กปน. จึงให้ความสำคัญกับคุณภาพน้ำประปาในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดที่มีผู้ใช้น้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำภายในเรือนจำและทัณฑสถานแล้ว กปน. ยังได้ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณภาพน้ำและการดูแลอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบประปาภายในเรือนจำให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน จึงขอให้มั่นใจได้ว่า กปน. พร้อมส่งมอบน้ำประปาที่สะอาด ปลอดภัยให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ ให้สามารถเข้าถึงน้ำประปาสะอาดปลอดภัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ตามนโยบาย “น้ำดื่มสะอาด บริการประชาชน” เป็น 1 ใน 5 นโยบายส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2568 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้น้ำเป็นหลัก