1. ระยะสั้น (ปี พ.ศ. 2566)

องค์กรที่มีการจัดการเป็นเลิศ มุ่งเน้นระบบการผลิตเพื่อให้ได้น้ำประปาตามมาตรฐานกรมอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) พร้อมระบบการสูบส่ง-สูบจ่ายน้ำที่มีแรงดันและระดับน้ำสูญเสียที่เหมาะสม มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ในการให้บริการลูกค้าและกระบวนการดำเนินงานภายในอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วย GRC โดยดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม พัฒนาและลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

2. ระยะกลาง (ปี พ.ศ. 2567-2569)

องค์กรที่มีศักยภาพด้านธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มุ่งเน้นการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยบริหารคุณภาพน้ำดิบด้วย ANSAT การผลิตน้ำอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ บริหารจัดการเพื่อลดอัตราน้ำสูญเสียด้วย WLMA Pro ยกระดับการให้บริการผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล (MWA onMobile/e-Service) แบบ Contactless สร้างรายได้เพิ่มให้แก่องค์กรด้วยธุรกิจเกี่ยวเนื่องในรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการจัดการพลังงานขององค์กร ผ่านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงจากปีฐานร้อยละ 10 การใช้พลังงานสะอาดด้วยโซล่าเซลล์ การนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิตน้ำและการลดการใช้กระดาษ (Paperless) นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนและเริ่มขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลเป็นองค์กรที่เติบโตเทคโนโลยี          

3. ระยะยาว (ปี พ.ศ. 2570)

องค์กรอัจฉริยะเพื่อสร้างคุณค่า มุ่งเน้นการให้บริการน้ำประปาได้อย่างต่อเนื่อง เพียงพอ และได้มาตรฐานน้ำประปา มีปริมาณน้ำกักเก็บสำรองในคลองส่งส่งน้ำดิบฝั่งตะวันออกเป็น 1.5 ล้าน ลบ.ม. บริหารแหล่งน้ำดิบ การผลิต การสูบส่ง-สูบจ่าย ด้วยเทคโนโลยี เช่น SCADA, Smart Map เป็นต้น พัฒนาองค์กรด้วยสถาปัตยกรรมองค์กรตาม Transition Plan เกิดผลิตภัณฑ์/บริการรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า การให้บริการงานประปาครบวงจรด้วยเทคโนโลยีดีดิจิทัล ผ่าน MWA onMobile และ e-Service ได้เสมือนการทำธุรกรรมที่สำนักงานประปาสาขา นำข้อมูลมาใช้ขับเคลื่อนองค์กร (Data Driven Organization) ยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งมอบคุณค่าตรงตามความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย